วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559

Resveratrol จากองุ่นแดง ดีแค่ไหน ทำไมต้องใส่ใน Skincare


 Resveratrol สกัดจากผิวองุ่น🍇 ( เท่านั้น )
เป็นสารสกัดที่ได้จากกรรมวิธีหมักบ่ม ไวน์แดง
มีฤทธิ์เป็น whitening &AHA ในตัวเอง ต่างจากตัวสังเคราะห์ เพราะ...
จะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ หรือเรียกง่ายๆว่า
... ต่อต้านการทำลายเซลล์ผิวหนังถึงชั้น Dermis
ซึ่งปัจจุบัน รังสี UVA UVB สมัยนี้ เข้ามาทำร้ายผิวเราง่ายกว่า อันเนื่องมาจากชั้น ozone ในประเทศไทยบางลง หรือแม้แต่ อากาศหนาวอย่างทวีปยุโรป ก็เป็นตัวทำให้ผิวเสียความชุ่มชื่นในชั้นผิวเช่นกัน
ผิวจึงถูกทำร้ายง่ายและ หมองคล้ำได้ง่าย

ความแตกต่าง aha ทางธรรมชาติสรรสร้าง และแบบ สังเคราะห์ออกมา??

Aha .. สังเคราะห์ที่มากไป จะทำให้ผิวบาง คล้ำเสียง่ายกว่า ซึ่ง.. ทุกวันนี้ หาได้ยากที่จะมีผู้จำหน่าย
ที่สกัดจากธรรมชาติโดยตรง เพราะราคาสูง มีเฉพาะ สินค้า Organic เท่านั้น
 ต่างจากแบบสังเคราะห์ที่ทำปฎิกริยาในรูปแบบเคมีมาทดแทน
แต่ AHA ในรูปที่อยู่ในสารสกัด เป็นผลพลอยได้ในส่วนประกอบคะ เพราะ ธรรมชาติจะมีกระบวนการจัดการตัวมันเองดีที่สุด
โดยที่เรา ..ดึงมันมาใช้อย่างถูกวิธี และราคาย่อมเยาว์

ผิวบางจาก ทำหน้า กรอหน้า เลเซอร์
-- นี่คือหน้าที่หลักของสารต้านอนุมูลอิสระ เลยคะ เพราะมันจะทำให้เซลล์ผิวหนังของเรา
ทำงานเป็นปกติสุข โดยไม่ต้องคอยระแวดระวัง มากมาย แต่ทากันแดดสม่ำเสมอให้เป็นนิสัย

สารต้านอนุมูลอิสระ ครอบคลุมครอบจักรวาล..มันดีแบบนี้นี่เอง
☄ผิวแข็งแรง ด้วยกระบวนการธรรมชาติ ทำให้ไม่ไวต่อแดดและลดการอักเสบได้ดี
⚡️ช่วยเรื่องผิวใส หน้าไม่หมองคล้ำ ลดเลือนริ้วรอย
⚡️เพิ่มการไหลเวียนเลือดบนผิวหนัง✨ขั้นเทพ ✨
⚠️มีงานวิจัยทางการแพทย์ระบุชัดเจนว่าชาวยกระตุ้น ยีน SIRT 1 มีผลทำให้เซลล์ที่มีชีวิตยืนยาวกว่าปกติ💧 เป็นแอนตี้ออกซิแดนซ์ต้านมะเร็ง
 ( เมื่อใช้กับผิว ก็ต่อต้านการทำลายเซลล์ผิวหนังได้ดีเช่นกัน
เพราะแสงแดด มลภาวะ สารเคมี เป็นตัวกระตุ้นเซลล์มะเร็งชั้นผิว )
⚠️แต่...ตัวนี้เมืองไทยไม่ค่อยนิยม...ในวงกว้าง เพราะถูกกระแสพวก กลูต้ากับพวก คอลลาเจนหรือพวก กระแสตัวอื่นๆกลบกระจาย ⭐️⭐️แต่ Resveratrol ⭐️⭐️
มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในสหรัฐและยุโรปในสถาบันความงาม รวมถึงการแพทย์อายุรกรรม

ลองหาข้อมูลกันดูเพิ่มเติมจะรู้ว่าตัวนี้ เด็ดจริงเรื่องผิวพรรณและชลอแก่แบบแก้ได้ แถมได้เรื่องสุขภาพมาเต็มๆ ใครล่ะไม่อยากได้

เหตุผลที่ เลือกมาเป็นสารสกัดหลักใน Grape concentrate serum
ต้องขอออกตัวเลยว่า. กำลังค้นฟ้าคว้าดาวคะ ตัวที่โดดเด่นและเห็นผลชัดเจนและไม่ทำร้ายผิว
เพื่อตอบโจทย์ life style ชีวิตเร่งรีบของทุกคน และของตัวเอง. อีกทั้งอยากได้เกรดที่ดีๆ มาบำรุง
และได้พบข้อมูลตามข้างต้น และเมื่อ🍇 Resveratrol 🍇มาใช้ร่วมกับสารสกัดตัวอื่น
จะยิ่งเสถียรมาก มากจน..ทำให้ออกฤทธิ์และเห็นผลเร็วเป็นที่น่าพอใจ

ส่วนประกอบอื่นๆ
-retinol อนุพันธ์วิตามินเอ ที่มีความปลอดภัยสูง ออกฤทธิ์ผลัดผิวอ่อนๆเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนในผิว
  ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้นและลดน้ำมันในชั้นผิว โดยไม่ทำให้ผิวบางร่วมกับ Vitamin B3

- Nicinamine ( vitamin B3 ) ใช้ได้สูงสุดไม่เกิน 5% เพราะผิวจะแห้งมาก แต่ใน Serum ใส่ในปริมาณที่พอดี สามารถออกฤทธิ์. ลดสิว ลดจุดด่างดำ ที่เดินทางขึ้นสู่ชั้นผิวให้น้อยลง. และไม่ทำให้ผิวบาง

- bilberry ที่ผลของมัน ออกฤทธิ์ในรูปของ Alpha arbutin โดยไม่ต้องใช้ตัวสังเคราะห์
  ลดอัตราการอักเสบของผิวที่บาง และไวต่อ Active skin บางชนิด
  ช่วยในเรื่อง ผิวขาว ลดฝ้ากระ ดีเยี่ยม และดี x2 เมื่อทำงานคู่กับ  Resveratrol

- Collagen & Hyaluron เติมเต็มระหว่างที่มีการผลัดผิวร่วมด้วย ทำให้ผิวแข็งแรงไว
รักษาน้ำหล่อเลี้ยงในผิวร่วมกับ anti oxidant อย่าง Resveratrol
ช่วยอุ้มน้ำ และประสานเนื้อเยื่อ
** sodium Hyaluronate ที่ใช้เป็นตัวที่หมักจากยีส เป็นสารสกัดนำเข้าจาก ฝรั่งเศส
** Collagen powder tri-peptide จากเยอรมัน สมานเนื้อเยื่อดีเยี่ยม

- allantoin จากต้น Comfrey มีฤทธิ์สมานผิวลดอักเสบ นิยมใช้กับผลิตภัณฑ์เด็ก
  ลดการระคายเคืองผิว

- Alovera dry freez เนื้อแบะเปลือกว่านหางจระเข้. สกัดเย็นในอุณหภูมิแช่แข็ง
  สมานผิว ปกป้องผิวจากรังสี uv ลดแผล การอักเสบ ระคายเคือง มีฤทธิ์เย็นลดไหม้

- vitamin E เร่งสร้าง enzyme ปกป้องผิวจาก อนุมูลอิสระ ชะลอริ้วรอยก่อนวัยจากแดด

- raffinnose ส่วนประกอบที่มช้ความชุ่มชื่น ลดการสูญเสียน้ำในผิว
  แบบเดียวกับผลิตภัณฑ์ Counterbrand อย่าง Channel

ที่สำคัญ... ปราศจาก สี กลิ่น สังเคราะห์ และ สารกันเสีย พาราเบน ที่ก่อมะเร็ง

ราคาสมเหตุผลคะ... 17 ml. ราคาเพียง 590 บาท
บรรจุในขวดแก้วทึบแสง ลดการใช้สารกันเสียและป้องกันการเสื่อมของผลิตภัณฑ์

วิธีใช้: ล้างล้างหน้าซับหมาดๆเพียง 1 หยด สามารถทาทั่วใบหน้า ถึงลำคอ
           เน้นบริเวณที่มีรอยสิว. สิว จุดด่างดำ ฝ้า.กระ
บริเวณที่แกะสิว ทาแล้วจะแห้งหลุดออก โดยไม่ทิ้งรอยดำ
ส่วนฝ้า กระ จะเริ่มเห็นผลชัดเจนหลัง. 2 อาทิตย์
ผิวที่แพ้สารเคมี แพ้ครีม จะใช้เวลาฟื้นฟูช่วงเซตแรก และปรับคืนสู่สภาพผิวปกติ
ในเซตที่ 2-3









วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สารสกัด สารแอคทีฟสกิน

สารอาหารจากธรรมชาติ สู่ผิว



 Astaxanthin 

สีแดง ๆ ที่ว่านี้คือสารที่มีชื่อว่า Astaxanthin ซึ่งเป็นสารกลุ่ม carotenoids 
ที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่สูงม๊าก โดยสูงกว่าวิตามินซี ถึง 6,000 เท่า 
และมากกว่า Coenzyme Q-10 ถึง 800 เท่า นับว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจ (แต่ก็ไม่สามารถทดแทนวิตามินหรือสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นได้ เพราะการทำงานและประโยชน์อื่น ๆ ที่ให้กับร่างกายก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว)

 photo Haematococcuspluvialis.jpg


Astaxanthin สามารถพบได้ในสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ และจากความรู้ในปัจจุบัน 
สาหร่ายน้ำจืดขนาดเล็กที่มีชื่อว่า ฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส (Haematococcus Pluvialis) โดยเจ้าสาหร่ายนี้ก็มีกระจายอยู่ในแถบภูมิอากาศอบอุ่นทั่วโลก ซึ่งปกติแล้วเจ้าสาหร่ายนี้ก็จะมีสีเขียวสมบูรณ์ดี แต่เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปจนไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตอยู่ได้
     สาหร่ายชนิดนี้ก็จะสร้างสารสีแดงที่มีชื่อว่า Astaxanthin ขึ้นมาเพื่อปกป้องเซลล์ของตัวเอ
จนกว่าสภาพวะที่เหมาะกับการดำรงชีวิตจะกลับมาอีกครั้ง

ปัจจุบัน Haematococcus Pluvialis เป็นแหล่งในการผลิต Astaxanthin เพื่อเชิงพาณิชย์ที่สำคัญ โดย Astaxanthin ถูกนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งเครื่องสำอาง โดยให้คุณสมบัติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยลดความเหนื่อยล้าของสายตา รวมไปถึงเรื่องความงามของผิวพรรณอีกด้วย

 photo Yamashita2006.jpg



การทดลองนี้สรุปไว้ว่า ผลที่ได้รับอาจมาจากคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของ Astaxanthin นั้นเข้าไปช่วยปกป้องคอลลาเจนในผิวจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากรังสี UV 

สำหรับการนำ Astaxanthin มาใช้ในเครื่องสำอางนั้นยังไม่แพร่หลายในประเทศไทยและที่อื่นๆ เท่าไหร่นัก (แต่ในญี่ปุ่นมีขายนะ) มีการศึกษาชิ้นหนึ่งในปี 2001 ที่ศึกษาการทาครีมผสม Astaxanthin เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์เทียบกับ Cream Base เปล่า ๆ ซึ่งผลออกมาพบว่า การทาครีมผสม Astaxanthin นั้นให้ผลเรื่องการเก็บกักความชุ่มชื้นที่ดีกว่า ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูลดลง และผิวดูสม่ำเสมอขึ้น


Sulforawhite
เป็นสารสกัดจากพืช (Garden cress sprouts) ที่อยู่ในรูปของ Liposome มีสารสำคัญคือ Sulforaphane ออกฤทธิ์เป็น Whitening agent ที่แตกต่างกัน Whotening อื่น ๆ เนื่องจาก Whitening ตัวอื่น เช่น Vitamin C, Licorice, Stbutin จะออกฤทธิ์โดยไปยับยั้งการทำงานของ Enzyme ที่ใช้ในการสร้างเม็ดสีที่ชื่อ enzyme tyrosinase แต่ Sulforawhite ออกฤทธิ์โดยไยบยั้งการทำงานของ MSH (Alpha Melanocyte Stimulating Hormone) ซึ่งเป็น Hormoneที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเม้สี (enzyme tyrosinase) นั้นหมายถึง Sulforawhite สามารถยับยั้งตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการสร้างเม็ดสีเลยทีเดียว White  นอกจากนี้ Sulforawhite  ยังมีฤทธิ์เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดี (Strong antioxidant) อีกด้วย ทำให้เสริมฤทธิ์กันในการเป็น Whitening ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
PhytoCellTec: Stem cell จาก apple ( In...BABY BOOSTER By Vanila skin )
PhytoCelltec Malus Domestica : Stem cell พืช ในการปกป้อง stem cell ผิว PhytoCelltec Malus Domestica เป็นระบบ Iiposome ที่บรรจุ stem cell ของ apple จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่รูจักกันดีกว่า สามารถเป็บไว้ได้นานโดยไม่เหี่ยวย่น โดยเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช ทำให้ได้ Stem cell ของพืชและนำมาใช้ใน cosmetics products เพื่อทำให้ Stem cell มีอายุยางนานขึ้น ชะลอความเสื่อมและลดความเหยี่ยวย่นของผิวได้ ดังนั้น PCT จึงเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญาเกี่ยวกับสาร anti-aging ที่เตรียมได้จากเทคโนโลยี่การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่เป็น Innovative technology
       คุณสมบัติเด่น
- ปกป้อง Stem cell ผิวให้มีอายุยืนยางขึ้น (Protect longevity of skin stem cells)
-ชะลอความเสื่อมของ cell สำคัญในผิว (Delays senescence of essential cell)
-ต่อสู้กับริ้วรอยที่เกิดตามวัย (Chronological Aging)
-เก็บรักษาความอ่อนเยาว์และความสดใสให้กับผิว
      
Nano Whilte 3 ( In...BABY BOOSTER By Vanila skin )
Skin whitening complex ที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และ ไม่คายเคืองผิว เป็นส่วนผสมระหว่าง Arbutin จากธรรมชาติ[Bearberry leafs, Vitamin complex และ Glutathione ซึ่งทำงานเสริมฤทธิ์กัน ลดการทำงานของเม็ดสี [melanin] ได้ดีกว่าการใช้ สาร whitening  เพียงตัวเดียว นอกจากนี้ Nano White 3 ยังอยู่ในรูป Liposome ซึ่งเป็นการเพิ่มความคงตัวและประสิทธิภาพของสารสำคัญอีกด้วย
VC-IP (Ascorbyl tetraispalmitate)
เป็นวิตามินซีที่อยู่ในรูป Ester ละลายได้ดีในน้ำมัน ไม่มีความเป็นกรดเหมือน VC ทั่วไปที่ละลายในน้ำ มีความคงตัวมากกว่า VC ที่ละลายในน้ำไม่ทำให้ผลิตภัณฑ์มีสีเข้มขึ้น สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ดีกว่า จึงมีประสิทธิภาพในการเป็น antioxidant และกระตุ้นการสร้าง collagen ได้ดีกว่า VC อื่น ทำให้โครงสร้างของผิวหนังแข็งแรงและเสื่อมช้าลง และปรับสภาพผิวให้ขาวเนียน เต่งตึง แลดูอ่อนกว่าวัย
Q10 [Co-enzyme Q10]
โคแอนไซน์ Q10 เป็นสารที่มีคุณสมบัติคล้ายวิตามิน ละลายในไขมัน มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายและร่างกายสามารถผลิตได้เอง มีความจำเป็นต่อร่างกาย โคแอนไซม์ Q10 เป็นสารสำคัญที่มีส่วนร่วมในการผลิตพลังงานมักพบในอวัยวะที่ต้องใช้พลังงานสูง เช่น หัวใจ ตับ ไต เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับอวัยวะเหล่านั้น แม้ว่าโคแอนไซน์ Q10 เป็นสารที่ร่างกายมนุษย์สร้างขึ้นได้เอง แต่จะสร้างในปริณที่ลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่ทำให้ปริมาณ โคแอนไซม์ Q10 ในร่างกายลดลงได้อีก เช่น ผลกระทบจากสภาพแวดล้อม การพักผ่อนไม่เพียงพอ การได้รับยา หรือสารเคมี แม้แต่ความเครียม ก็ล้วนแต่มีผลทำให้ปริมาณโคแอนไซม์ Q10 ในร่างกายลดลงทั้งสิ้น ดังนั้นร่างกายจึงควรได้รับ โคแอนไซน์ Q10  จากภายนอก โดยร่างกายสามารได้รับ โคแอนไซน์ Q10 ที่สังเคราะห์ ขึ้นมาใช้เป็นสารสำคัญในอาหารเสริม และเครื่องสำอาง ซึ่งไม่เป็นพิษต่อเซลล์ผิวหน้ง
       โคแอนไซน์ Q10  เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อกระบวนการสร้างพลังงานของร่างกาย ปัจจุบันจึงได้มีการนำ โคแอนไซน์ Q10 มาใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในทางการแพทย์เพื่อรักษาอาการของโรคต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เพื่อลดริ้วรอยก่อนวัยและช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว

Argireline [Botox-like]
มีชื่อ ทางเคมีว่า Acetyl Hexapeptide 3 มีองค์ประกอบสำคัญเป็นสารประเภทโปรตีน โดยมีประสิทธิภาพในการลดเลือนเส้นริ้วรอยและสัญญาณความร่วงโรยแห่งวัยทั้งหลายเพราะ Acety Hexapeptide 3 สามารถลดการผลิตและการหลั่งของสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมการหดตัวของกลามเนื้อบนใบหน้า ซึ่งผลที่ได้นี้ทำให้สามารถป้องกันการตัวของริ้วรอยบนผิวหน้าที่เกิดจากการเคลื่อนไหวหล้ามเนื้อและการแสดงอารมณ์บนใบหน้าที่มักจะเกิดอย่างต่อเนื่องโดยที่เราไม่ทันระวังตัว และ ไม่พบผลข้างเคียงที่เป็นพิษใด ๆ ต่อร่างกายจึงสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยและข้อดีอีกประการหนึ่งของ Acetyl Hexapeptide 3 ก็คือ มีองค์ประกอบพื้นฐานเป็นส่วนประกอบของโปรตีนสายสั้น ๆ  จึงทำให้ดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

Trimoist
เป็น Moisturizer ชนิดพิเศษ เป็นนวัตกรรมใหม่ของเวชสำอาง ที่ moisturizer ตัวเดียว แต่ทำหน้าที่มากกว่าการให้เพียงแค่ความชุ่มชื้นแก่ผิว แต่ยังทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านริ้วรอย[anti-aging], สารปกป้องผิว [protection] และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ [anti-oxidant] อีกด้วย ด้วยส่วนประกอบที่ทรงคุณค่าหลากหลายชนิด เช่น
CN-Glycan                   ปกป้องผิวเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
Stearyl lactate
Cetyl alcohol               เสริมสร้างโครงสร้างของชั้นผิวหนังเหมือนเกราะป้องกันผิวเปรียบ
Oleic acid triglyceride
Phytosterols
Vitamin E acetate         ต่อต้านอนุมูลอิสระ
Glycerin                       สารอุ้มน้ำให้กับผิวเพิ่มความชุ่มชื้น
Lactate
Carmosine                   anti-aging สารชะลอความแก่


Aquacateen
สารสกัดจากต้นตะบองเพชร [cactus] เป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างลำลึกและยางนาน deeply and long-lasting, ทำให้ผิวกระชับขึ้น และช่วยในการบรรเทาการระคายเคืองต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง มีสารจำพวก flavones,vitamin, antioxidant mineral และ piscidic acid (ซึ่งเป็น iron chelator) Aquacateen ช่วยบล็อกการปล่อยพวก Stress marker จาก sensry never cell (เซลล์แระสาทรับความรู้สึก) ในผิวช่วยลดหรือหยุดการระคายเคืองที่ผิว และ aquacteen มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นอย่างดีเยี่ยมเพราะ มีส่วนประกอบที่เป็นพวก Water-blinding (สารอุ้มน้ำ) ในปริมารสูง Aqucacteen เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ  Skin care product ทุกชนิด เช่น face care, body care, sun protection, Bath/shower gel, men's line

MOIST 24
เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างต่อเนื่องยางนานตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยสารสกัดจาก พืชทะเลทราย Imperata cylindrica ที่อุดมไปด้วยโปแตลเซียม ซึ่งช่วยในการเก็บกักน้ำให้ผิว ส่งผลให้ผิวแลดูแต่งตงและเรียบเนียน ดูมีสุขภาพดีจากภายใน


Ginkgo Extract
INCI: Ginkgo biloba
แหล่งที่มา: สกัดจากใบของต้น Ginkgo biloba
สรรพคุณ : ช่วยการใหลเวียนของหลอดเลือดและทำให้หลอดเลือดแข็งแรง anti-infammatory, anti-allergenic กระตุ้นการสร้าง collagen และ fibroblast จึงเหมาะกับใช้ในผลิตภัณฑ์ Arti-aging มีฤทธิ์ anti-oxidant
สารสำคัญ : ลอก
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : Skin care, Anti aging, Eye care


Cocoa Butter
INCI: Theu broma cacao
แหล่งที่มา :เมล็ดต้น Theo broma cacao
สรรพคุณ : ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็น rich emollient เหมาะกับการดูแลบำรุงผิวที่ขาดน้ำ ผิวแห้งเป็นพิเศษ
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : Body Butter, hand Cream, Lip care



สารสกัดใบบัวบก
INCI: Centella asiatica
สารสำคัญ : triterpenes Asiatic acid, madecassic acid และสารพวก Triterpenoid ester glycosides
สรรพคุณ: เป็นสาร Antioxidant ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนช่วยในการสร้าง collagen ในผิว ช่วยในการสมานแผลจึงทำให้เป็นสาร Anti-aging ได้อย่างดี ทำให้ผิวกระชับและมีความยืดหยุ่น ช่วยลดขนาดเส้นเลือดดำ ทำให้หน้าเส้นเลือดแข็งแรง จึงดีกับการใส่ในผลิตภัณฑ์ ลดรอยคล้ำใต้ตา และครีมบำรุงรอบดวงตา
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : Skin care ทุกชนิด, Eye care, Anti-aging product, Acne care


Chamomile Extract
INCI: Chamomilla recutia (Matricaria) flower
แหล่งที่มา : สกัด จากดอก Chamomile
สารสำคัญกว่า 100 ชนิด ที่สำคัญได้แก่ Chamazulene, Alpha-bisabolol oxide, Apigens, Borneol, Farfural, Matri carin, Chlorogenic acid, Chlorogeni acid, Farnesene, Cuminic และ Azulene
สรรพคุณ : มีคุณสมบัติเป็น antiseptic และสมานแผลช่วยทำให้ผิวอ่อนนุ่ม ลดการระคายเคือง ลดการอับเสบ (anti-infla matory) ให้ความชุมชื้นกับผิวเป็น anti-oxidant ช่วยลดการบวม และช่วยทำความสะอาดรูขุมขน เหมาะกับจะใช้ในผลิตภัณฑ์ Anti-aging เพราะช่วยในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้แข็งแรงขึ้นลดอาการแดงที่ผิวทำให้หลอดเลือดแข็งแรง
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : Skin Care, Anti-aging ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่าย Eye-care, Acne-care


ผงแอบปริคอท  ( In...BABY BOOSTER By Vanila skin )
INCI : Prunus Armenia Ca
แหล่งที่มา : ทำจากเมล็ด Apricot บดละเอียด และทำให้ปราศจากเชื้อ
สรรพคุณ : เป็นผงขัดผิวจากธรรมชาติ ที่มีขนาดเม็ดละเอียด ขัดเซลล์ผิวเก่าออกโดยไม่ทำลายผิว
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : ผลิตภัณฑ์ขัดผิดทุกชนิด



ขี้ผึ้ง
INCI : Cera alda
สรรพคุณ : ขี้ผึ้งบริสุทธิ์จากธรรมชาติมีสรรพคุณเป็น antibacterial อ่อน ๆ มีส่วนผสมของ Vitamin A ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว Cera Alba เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีเยี่ยมช่วยให้ผิวนุ่ม ลดการหยาบกร้าน
แหล่งที่มา : มาจากสารหลั่งของผึ้ง (Apis Melifera)
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : ครีมให้ความชุมชื้นทุกชนิด Hand Cream, Foot Cream, Body Lotion, Lip Balm



Sweet almond Oil  ( In...BABY BOOSTER By Vanila skin )
INCI : Prunus dalai (Sweet)
แหล่งที่มา : เป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัด เมล็ด อัลมอนด์
สรรพคุณ : เป็นน้ำมันที่ดูดซึมเข้าสู่ผิว ได้ดีช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น และ ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับผิวแห้งและระคายเคืองง่ายใช้กับผิวหน้าได้ ไม่อุดรูขุมขน หรือทำให้เกิดสิว
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : Skin Cream, Hair Cream น้ำมันนวดหน้า และนวดตัว



Licorice acid  ( In...BABY BOOSTER By Vanila skin )
     เป็นสารสกัดจากรากชะเอม จากการศึกษาพบว่าสารสกัดมีฤทธิ์ยับยั้ง Enzyme tyrosinase ทำให้ลดอัตราการเกิดการสร้างสาร melanin ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้สีผิว เข้มขึ้น, ฝ้าและมะเร็งที่ผิวหนังด้วยนอกจากนี้ Licoric acid ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูล อิสระทำให้ลดริ้วรอยที่เกิดก่อนวัย ป้องกันแสงแดด ช่วยลดจุดด่างดำ รอยดำจากสิว ลดฝ้า กระได้อย่างปลอดภัยในเวลาที่รวดเร็ว และฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ทำให้การทำงานของผิวหนังเป็นไปตามปกติ


Ferulic acid&Gluconic acid (AHA)

 Ferulic acid&Gluconic acid หรือกรดผลไม้ มีบทบาทในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำหน้าที่เสมือนกรรไกรคอยตัดเซลล์ ที่เกาะกันอยู่ให้แยกจากกันและหลุดลอกออกไปในที่สุด กรดผลไม้จะช่วยให้เซลล์เก่าๆบนผิวหน้า ของเราหลุดออกไปเร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้เซลล์ใหม่เจริญขึ้นมาแทนที่ ทั้งช่วยซ่อมแซม และเสริมสร้างเนื้อเยื่อ (คอลลาเจน) ในชั้นหนังแท้ด้วย เป็นผลให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน และขาว สดใสกว่าเดิม
ประโยชน์ของ AHA
     - ลดการจับตัวกันของ corneocyte ในผิวหนังชั้น stratum corneum โดยไปรบกวนพันธะที่เกิดระหว่างเซลล์ (ionic bond) ทำให้มีฤทธิ์ mild keratolytic หรือ skin peeling ทำให้ผิวหนังปรากฏขึ้นมาใหม่เป็นผิวหนังที่เรียบนุ่ม แลดูอ่อนเยาว์
     - กระตุ้นให้ผิวหนังมีการผลัดเปลี่ยนเซลล์เร็วขึ้น
     - ทำให้ผิวเกิดความชุ่มน้ำ (hydration) แน่น (firm) และเพิ่มความหนา (Thickness)จึงลด รอยเหี่ยวย่นได้ 



Titanium dioxide (TiO2) & Zinc oxide (ZnO)

      ทั้ง 2 ตัวเป็นสารที่สามารถกระจายและสะท้อนแสง UV รวมทั้งรังสีจากแสงแดดที่ 
สามรถมองเห็นได้ด้วย ตาเปล่า โดยเฉพาะ UV A เนื่องจากสามารถดูดกลืนรังสีในช่วงคลื่น 370 nm
      โดยเฉพาะเมื่อใช้ Titanium dioxide (TiO2) & Zinc oxide (ZnO)

 ร่วมกันจะทำให้ค่า SPF สูงและสามารถป้องกันรังสีได้ในช่วงกว้างมากขึ้น 

Silicone

      จัดเป็นสาร Polymer ที่มีสมบัติเป็นสารป้องกันแสงแดดดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังในชั้น stratum corneum และยังคงมีประสิทธิภาพ ไม่ถูกชะล้างออกโดยน้ำ เหงื่อหรือติดกับเสื้อผ้า
     นอกจากนั้นตัวของมันยังมีสมบัติในการปรับสภาพผิว ช่วยแก้ไขสภาพผิวที่แห้ง ให้มีความนุ่มเรียบ ลื่น ต่อการสัมผัส และป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิวหนัง


Vitamin E   ( In...BABY BOOSTER By Vanila skin )
Vitamin E acetate (Tocopherol) เป็นวิตามินที่พบมากในธรรมชาติทั้งในน้ำมันพืช ข้าวสาลี และถั่ว และปัจจุบันนี้ Vitamin E ยังเป็นที่นิยมใช้ในครีม บำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นและความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง 
  ประโยชน์   - ป้องกันเซลล์ถูกทำลายจากแสงแดด ทำให้ลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง
  - รักษาความชุ่มชื่นของผิวหนังโดยวิตามินจะสะสมอยู่ในผิวหนังชั้น stratum corneum
  - มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ โดยไปป้องกันกระบวนการเกิด Lipid peroxidation ลดริ้วรอย
    การแก่ก่อนวัยและผิวหน้าหมอง คล้ำ

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ศัพท์เกี่ยวกับคุณสมบัติของเครื่องสำอาง



ศัพท์เกี่ยวกับคุณสมบัติของเครื่องสำอาง
         Anti-aging : เครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติต่อต้าน ลบเลือน 
หรือชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย พบมากในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย
ที่เกิดริ้วรอยได้ง่าย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับริมฝีปากและรอบดวงตาด้วย 
นอกจากนี้ยังมีคำว่า Age-defense, Anti-wrinkle, Time Defiance ที่มีความหมายเดียวกัน 

         Fragrance Free : คือปราศจากส่วนผสมที่เป็นน้ำหอม (สังเคราะห์จากสารเคมี)   
        ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ในผิวที่บอบบางแพ้ง่าย

         Allergy Tested : หากมีคำนี้ก็แสดงว่าเครื่องสำอางชนิดนั้นได้ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่แพ้

         Non-alcohol : ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งมักพบในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับคนผิวแห้ง 
         แต่สำหรับคนผิวอื่นๆ ก็ควรเลือกใช้ เพราะเป็นสาเหตุให้น้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ
        จะถูกกำจัดออกไป ทำให้ผิวมีความแห้งตึงและแพ้ได้

         Against Animal Testing : มีความหมายว่า ไม่มีการทดสอบกับสัตว์ทดลอง (ซึ่งจะทำการทดสอบกับอาสาสมัครที่เป็นคนแทน) จึงเป็นการบ่งบอกถึงศีลธรรมจรรยา ไม่เกี่ยวข้องกับสรรพคุณของเครื่องสำอางแต่อย่างใด 

         Firming/Lift : เป็นคุณสมบัติที่ช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึง ลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น
 แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น มักมีส่วนผสมของสารที่ทำให้ผิวเกิดการตึงตัว 
ซึ่งจะอยู่ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงจากนั้นก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
++ ดังนั้นเครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติกระชับผิวที่ดีจะต้องมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวเข้าไปด้วย เช่น คอลลาเจน หรือสารที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ผิวจึงจะดีขึ้นได้ในระยะยาว

         Oil Control/Shine Control : เครื่องสำอางที่ผสมสารบำรุงผิว (มอยเจอร์ไรเซอร์) 
ที่ช่วยควบคุมไม่ให้เกิดความมัน แต่ถ้าเป็นคำว่า Oil Free จะไม่มีส่วนผสมของไขมันเลเหมาะกับ
คนที่มีผิวมันมาก ๆ 
มักมีส่วนผสมของ Cetearyl alcohol, Isopropyl myristate, Myristic acid, Palmitic acid เป็นต้น

         Anti-oxidant : มีส่วนผสมที่มีคุณสมบัติต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ 
ซึ่งเป็นตัวการที่ก่อให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย สารต้านอนุมูลอิสระมีหลายชนิดด้วยกัน
ส่วนใหญ่ได้จากการสกัดจากพืชพรรณธรรมชาติ 

         Waterproof : คุณสมบัติที่สามารถกันน้ำได้ หรือไม่ละลายน้ำ ซึ่งไม่ทำให้ตัวแป้งละลายหายไปกับเหงื่อ ติดทนนาน แต่ก็จะล้างออกยากเช่นกัน อาจต้องใช้ครีม(คลีนเซอร์)เช็ด

         Aromatherapy : ถ้าเป็นเครื่องสำอางที่ดีจะต้องเป็น Aromatherapy ที่มาจาก Essential Oil - น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ที่สกัดจากธรรมชาติจริงๆ จึงจะได้ผลในการบำบัดด้วย

         White/Whitening : Whitening ที่ดีนั้นต้องค่อยๆ ทำให้ขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ระเคืองต่อผิว และเชื่อถือได้ว่าไม่ผสมสารเคมีอันตรายบางตัวที่ทำให้ผิวขาวขึ้นได้เช่นกัน

         UV Filter : สามารถป้องกันรังสีอัลต้าไวโอเล็ตจากแสงแดดได้ โดยจะมีส่วนผสมของสารกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป ซึ่งครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพดีควรมีส่วนผสมของ Titanium dioxide และ Zinc dioxide เพราะมีอานุภาพในการสะท้องรังสี UV กลับสูง แต่ข้อเสียคือจะค่อนข้างทำให้หน้ามันเยิ้มและเป็นคราบเมื่อเหงื่อออกมากๆ  

         Hydrating Cream : คือครีมที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวโดยไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า เหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวมัน

สารเคมีที่มักพบในเครื่องสำอาง

สารเคมีทั่วไป
         Lanolin : ลาโนลิน สารสกัดที่ได้จากธรรมชาติ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ป้องกันการแห้งตึง แต่การวิจัยบางชิ้นพบว่าอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง และเป็นสาเหตุหนึ่งของการอุดตัน และการก่อตัวของสิว
         Mineral Oil : มิเนอรัลออยล์ เป็นผลผลิตที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ใช้เป็นสารทำความหล่อลื่นในเครื่องสำอาง พบได้ในโลชั่น มอยเจอร์ไรเซอร์ ครีมล้างหน้า อายครีม ฯลฯ ซึ่งมีโมเลกุลค่อนข้างใหญ่ จึงไม่สามารถซึมลงไปใต้ผิวหนังอย่างที่เคยคิดกัน แม้จะไม่ก่อให้เกิดโทษร้ายแรงแต่ก็ไม่มีประโยชน์ต่อผิว
         Glycerin : กลีเซอรีน เป็นสารที่เกิดจากการเติมด่างลงไปในไขมัน ใช้มากในการทำสบู่ และเครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รวมถึงน้ำยาบ้วนปากและยาสีฟัน โดยได้รับการรับรองว่าปลอดภัย ไม่ทำให้ระคายเคือง
         Propylene Glycol : โพรไพลีน ไกลคอล นิยมใช้กันมากในเครื่องสำอางดูแลผิวที่ต้องการคุณสมบัติกักเก็บความชุ่มชื้นและซึมผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ดี ปลอดภัยต่อผิว
         Dimethicone : ไดเมธิโคน คือน้ำมันซิลิโคนชนิดหนึ่ง ใช้เป็นเบสของผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นครีมต่างๆ ไม่เป็นอันตรายต่อผิว
         Polysorbate : โพลีซอร์เบต มักพบในเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย เพราะเป็นสื่อผสมให้น้ำสามารถเข้ากับน้ำมันหอมระเหยได้ ค่อนข้างปลอดภัยต่อคน
         Cocamidopropyl Betaine : โคคามิโดโพรพิล บีเทน เป็นสารที่ได้จากน้ำมันมะพร้าว มักใช้ผสมในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ เช่น สบู่ แชมพู คอนดิชั่นเนอร์ หรือโฟมล้างหน้า ช่วยในการลดแรงตึงผิวของน้ำและทำให้เกิดฟอง แต่หากใช้ในปริมาณมากเกินไปอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้
         Butylene Glycol : บิวไทลีน ไกลคอล เป็นสารที่ทำหน้าที่เก็บกักความชุ่มชื้น รักษากลิ่นและความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ให้คงรูป มักเป็นส่วนผสมของโลชั่นต่างๆ ไม่เป็นอันตรายต่อผิว
         Phenoxyethanol : ฟีน็อกซ์ซีธานอล พบได้ในเครื่องสำอางที่มีน้ำหอมผสมอยู่ เพราะมีคุณสมบัติทำให้น้ำหอมคงตัว ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ แต่ต้องไม่ใช้ในปริมาณที่เข้มข้นไม่เช่นนั้นอาจเกิดอาการแพ้ได้
         Sodium Chloride : โซเดียมคลอไรด์ หรือเกลือทะเล ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด แต่หากใช้ในปริมาณที่เข้มข้นเกินไปก็ทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ พบในน้ำยาบ้วนปาก สบู่ อายครีม เกลืออาบน้ำ เป็นต้น
         Stearic Acid : กรดสเตียริก เป็นสารที่เกิดไขมันและน้ำมันจากสัตว์จึงค่อนข้างปลอดภัย มักใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย โลชั่น ครีมรองพื้น และสบู่ มีคุณสมบัติช่วยสร้างความนุ่มนวล ลื่น เป็นประกายแวววาว


สารเคมีที่ควรระวัง

         Hydroquinone : ไฮโดรควิโนน สารนี้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางทาฝ้า หาใช้ในระยะยาวจะก่อให้เกิดผลเสียต่อผิวอย่างมาก เช่น แพ้ ระคายเคือง และทำให้ผิวหน้าดำคล้ำกลายเป็นผ้าถาวร

         Sodium Laureth Sulfate : โซเดียมลอริธซัลเฟต พบได้ในโฟมล้างหน้า ยาสีฟัน และในแชมพูมากที่สุด(ประมาณ 90 % ของแชมพูท้องตลาด) อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ในบางคน ดังนั้นหากมีผิวบอบบางแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยง

         Formaldehyde : ฟอร์มาลดีไฮด์ ช่วยฆ่าเชื้อโรคและเชื้อราต่างๆ พบมากในยาทาเล็บ สบู่ และแชมพู หากสูดดมมากๆ อาจเป็นอันตรายต่อระบบหายใจได้ 

         S. D. Alcohol : เอส. ดี. แอลกอฮอล์ ใช้ในเครื่องสำอางประเภทรักษาความมันและสิวอุดตัน โดยจะเป็นตัวนำน้ำมันและสิ่งสกปรกออกไป รวมทั้งน้ำหล่อเลี้ยงบนชั้นผิวด้วย จึงทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและแห้งตึงได้

         Sodium Hydroxide : โซเดียมไฮดรอกไซด์ ใช้เป็นส่วนประกอบหลักในสบู่ แชมพู น้ำยายืดผม ซึ่งเป็นสารที่มีความเป็นด่างสูง จึงอาจทำให้ผิวหรือหนังศีรษะแห้งลอก หรือเกิดการอักเสบได้

         Talc/Talcum : แป้งทัลส์หรือทัลคัมที่พบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่น แป้งอัดแข็ง บลัชออน อายแชโดว์ หรือสเปรย์ระงับกลิ่นกาย ให้ความรู้สึกลื่น นุ่มนวล แต่ไม่ควรใช้กับส่วนเล้นลับเพราะมีการวิจัยพบว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมดลูกได้มากกว่าปรกติถึง 3 เท่า

         Steroid : สเตียรอยด์ สารอันตรายที่ก่อให้เกิดความผิดปรกติของผิวหนังได้  เนื่องจากสเตียรอยด์เป็นสารอันตราย ผู้ผลิตจึงมักไม่ระบุชื่อลงไปในฉลาก ดังนั้นจึงควรเลือกเครื่องสำอางที่น่าเชื่อถือ มีเลขทะเบียนอนุญาตจำหน่ายหรือตราที่รับรองว่าผ่านการตรวจสอบแล้ว

เคล็ดลับการเลือกและการเก็บรักษา
         ส่วนผสมปลอดภัย
         บรรจุภัณฑ์ดูดี
         แหล่งที่มาน่าเชื่อถือ
         รายละเอียดสินค้าชัดเจน
         มีอย. รับรอง
         ทดสอบว่าไม่แพ้

        สำหรับการเก็บรักษาเครื่องสำอางให้สามารถใช้งานได้นานที่สุด
 และไม่เสื่อมสภาพไปก่อนอายุไขอันควรคือประมาณ 2 ปีนับจากวันที่ผลิต
        สิ่งสำคัญอยู่ที่การรักษาความสะอาดและอุณหภูมิอันเหมาะสม 
       ไม่ควรเก็บในห้องที่อากาศร้อนอบอ้าว ควรเก็บไว้ในที่ที่แดดส่องไม่ถึง 
        บางคนชอบนำไปเก็บในตู้เย็น(ชั้นที่ไม่เย็นจัดนัก)ซึ่งก็ช่วยรักษาสภาพของเครื่องสำอางไว้ได้นาน
        ไม่ควรนำมือเข้าไปควักหรือป้ายเครื่องสำอางออกมาจากขวด ควรเทหรือใช้ช้อนสำหรับตักเล็กๆ ตักเครื่องสำอางออกมา หลังใช้ทุกครั้งควรปิดฝาให้สนิท เพื่อป้องกันการระเหยของส่วนผสมที่เป็นน้ำในเครื่องสำอาง และการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุทำให้เครื่องสำอางบูดเสียได้ หากเครื่องสำอางมีกลิ่นหรือสีเปลี่ยนไป ส่วนผสมแยกตัวออกจากกัน เกิดฟองขึ้น หรือจับตัวเป็นก้อนแข็ง ฯลฯ แสดงว่าเสีย ใช้ไม่ได้แล้ว 

อ้างอิงจาก นิตยสาร Health & Beauty

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ภัยเงียบจากสิวเสตียร์รอยด์

ก่อนอื่นเรามารู้จักสารสเตียรอยด์กันก่อนนะคะ

สารสเตียรอยด์คือสารที่ในร่างกายเรามีอยู่แล้วนะคะ

                                          เป็นฮอร์โมนที่ถูกสร้างขึ้นจากต่อมหมวกไตนะคะ 
ซึ่งต่อมนี้จะสร้างฮอร์โมนแอนโดเจน ซึงเป็นฮอร์โมนเพศชาย 
--> จะมีการถูกสร้างสูงสุดตอนเราตื่นนอน
--> และถูกสร้างน้อยที่สุดตอนเรา นอน คะ
นอกจากนี้เมื่อออกกำลังกาย ภาวะที่ร่างกายมีความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า มีบาดแผล 
ได้รับการผ่าตัด ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ 
ร่างกายจะหลั่ง Cortisol มากขึ้นเพื่อควบคุมสภาวะเมตาบอลิซึมของ
คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ผลต่อความสมดุลของเกลือแร่ อิเล็กโทรไลต์ และน้ำ
--> บรรเทาการอักเสบเนื่องจากมีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน 
ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดผลต่อการเจริญเติบโต
การแบ่งเซลล์ กล้ามเนื้อ กระดู
\     ดังที่กล่าวมาจะพบว่าสเตียรอยด์มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก 
ร่างกายไม่สามารถขาดสเตียรอยด์ได้เลย
       ดูรายละเอียดนี้มาสเตียรอยด์ก็มีประโยชน์กับเรามากนะคะ แต่ทำไมถึงอันตราย
ก็เพราะสารสเตียรอยด์ที่เราใช้ทา กิน ฉีดนั้น ไม่ได้มาจากร่างกายผลิตคะ
                         มันเป็นสเตียรอยด์สังเคราะห์ 
       จริงๆแล้วสเตียรอยด์สังเคราะห์ทางการแพทย์จะใช้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้ยาปกติได้แล้ว
        คือรับยาธรรมดาไม่หายแล้ว เรียกง่ายๆคือ อาการหนักแล้ว เท่านั้นคะ
 แต่ที่ในปัจจุบันสเตียรอยด์ถูกนำมาใช้อย่างพร่ำเพื่อ เพราะใช้สเตียรอยด์แล้วหายเร็ว
 เป็นสิว สิวก็หาย หน้าขาว หน้าใส ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วทันใจหนุ่มๆสาวๆ สมัยนี้
 แต่นี้คือจุดเริ่มต้นของภัยอันร้ายแรงที่จะติดตัวเรา
 ติดหน้าไปเราอีกนานคะ ความสวย ความขาว ความใสในระยะเวลาเพียงสั้นๆนี้ 
 เป็นจุดเริ่มต้นของอะไรบ้างเรามาดูกันนะคะ

สารสเตียรอยด์เราพบได้ที่ไหนบ่อยที่สุดและมากที่สุด
1.ยาแต้มสิว 
2.ยาฉีดสิว
3.ยาทานแก้สิวอักเสบ
4.ครีมหน้าใส หน้าขาว หน้าเด้ง 
5.ครีมรักษาสิว 


การสังเกตผลิตภัณฑ์ที่มีสเตีนรอยง่ายๆ นะคะ คือ
....เมื่อทาผิวหน้าแล้ว ผิวหน้าของคุณที่มีปัญหา ปัญหาเหล่านั้นจะหายไปเร็วมาก หน้าจะใส เนียน ขาว ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบมากคะ 
.....แต่สารสเตียรอยด์เหล่านี้จะใช้เวลาในการสะสมอยู่ในผิวเป็นเดือน หรือบางรายก็เป็นปีถึงจะแสดงอาการคะ แต่ในปัจจุบันครีมหลายยี่ห้อก็แข็งกันทำความเร็วในการรักษาเลยไม่มีใครยอมสารสเตียรอยด์น้อยกว่าใครเลยคะ 
.....ผลก็ทำให้ลูกค้าที่ใช้ครีมหรือยาหมอ เห็นผลได้เร็วขึ้นคะ ที่นี้เราก็จะได้เห็นผลข้างเคียงของความสวยมีความอันตรายและผลข้างเคียงกันนะคะ

อาการของคนที่เป็นสิวสเตียรอยด์ หรือ ติดสเตียรอยด์
1. ผด ผื่น จะขึ้นง่ายมากคะ
2.เป็นสิวผด เป็นปื้นๆ
3.ผิวแดง เหมือนแพ้อะไรมา 
4.มีอาการคัน
5.ผิวบาง และแพ้ง่ายโดนอะไรนิดอะไรหน่อยก็แพ้
6.สิวจะเป็นเม็ดแดงๆ ขึ้นกระจายทั่วทั้งหน้า หรือเป็นกระจุกบริเวณใดบริเวณหนึ่ง แต่จะขึ้นเยอะมากบริเวณที่ทาครีมหรือยาที่มีสเตียรอยด์บริเวณนั้นเยอะ
7.สิวอุดตันที่ขึ้นมา กดออกมาจะมีกลิ่น หรืไม่มีกลิ่นแต่ให้สังเกตว่าสิวอุดตันจะแดง
8.สิวอักเสบที่มีเม็ดจะใหญ่และเจ็บ และไม่มีหัว จะเป็นอักเสบหัวแดง กว่าจะยุบก็ใช้เวลานาน
9.สิวจะขึ้นเห่อ 
10.สำหรับคนผิวมัน หน้าจะมันขึ้น หลังหยุดใช้สเตียรอย
11.ผิวจะดูเหยี่ยวเร็ว เพราะสเตียรอยด์จะเข้าไปทำลายการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้หน้าหมองคล้ำได้ ผิวขาดความชุ่มชื้น

อันนี้คือบทความที่ทางเราคัดลอกมาจากคุณ Kunginter นะคะ


หน้าใสเป็นกระจก ดูก็รู้ ว่าทาสเตียรอยด์ 
พอหยุดใช้ ไม่ได้ทา หันไปใช้ลังโคม ผดขึ้น (จากการหยุดสเตียรอยด์) ก็โทษลังโคม ว่าแพ้ลังโคม 
พอเปลี่ยนไปใช้ La Mer บ้าง สิวขึ้น ผดมาเต็มหน้า (เพราะฤทธิ์ของสเตียรอยด์) ก็โทษ La mer เที่ยวบอกว่าแพ้ La mer 
พอไปใช้ยูเซอรี สิวผด สิวเห่อ ก็ไม่หาย / ไปพึ่ง Clinique ก็ไม่ work ด่า Clinique ว่าไม่ได้เรื่อง 
พอกลับไปทาครีมสเตียรอยด์ที่เคยใช้ ....สิวยุบใน 2 วัน ทุกอย่างคืนสู่สภาพเดิม..หน้าใสเป็นกระจกอีกครั้ง 
 เป็นวงจรที่อุบาทว์มาก ด่าเลย ! 

ปล. ครีมที่มีสเตียรอยด์ มักจะมีสีนวลๆ เหลืองๆ เนื้อครีมข้นๆมันๆ อย่าง ครีมบาชิ ครีมคูเวต ครีมชาเขียว ครีมขมิ้น ครีมนมข้าว นมหมา นมแมว อะไรนี่เข้าข่ายทั้งหมด ไม่มี active ingredient ตัวไหนที่ผ่านอย. แล้วหน้าจะใสเป็นกระจกได้แบบนั้นหรอก  เหมือนคนติดยา กินยาบ้ายาม้า ของแรงๆ มาตลอด อยู่ๆจะไปกินยาคูลท์ ก็ไปด่ายาคูลท์ว่าไม่ดี แพ้ยาคูลท์ / คนแบบนี้มีเยอะมาก แอร๊ยย #บ่นๆๆๆ

อาการจะเป็นแบบนี้นะคะ คนที่ติดสเตียรอยด์เหมือนคนติดยาคะพอได้รับยาอาการดีขึ้นเร็ว หาย หน้าใส พอหยุดหน้าพังร่างการปะท้วงต้องการยา อย่าปล่อยให้เราต้องเป็นทาสของมันเลยนะคะ
หลายคนที่เป็น ทุกคนจะท้อใจ เหนื่อยใจ และหมดกำลังใจคะ แต่เราเชื่อว่าทุกปัญหามีทางออกคะ แต่การรักษาสิวสเตียรอยด์ หรือคนที่ติดสเตียรอยด์แล้ว เราอยากจะบอกว่าให้ใจเย็นนะคะ

 เราเชื่อว่าทุกคนอยากหาย อยากมีผิวใส แต่เราพลาดใช้ไปแล้วไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจให้ยอมรับและตั้งสติก่อนนะคะ อย่าใจร้อนเพราะถ้าคุณใจร้อนคุณจะต้องเข้าไปในวงจรการรักษาแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปมีทางหายขาดคะ อันดับแรกคือ "งดส่องกระจกคะ." 
เพราะยิ่งส่องเรายิ่งท้อ ยิ่งจะบีบ จะแกะ จะเกา จะเค้น แล้วจะไปมีทางหายคะ สิวจะยิ่งลาม

ขั้นตอนในการดูแลตนเองสำหรับผู้ที่เป็นสิวสเตียรอยด์มาให้นะคะ


1.ลดการใช้ยา หรือครีม ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์นะคะ ค่อยๆลดนะคะถ้าคุณกลัวมันเห่อหนัก แต่ถ้าบางคนอยากหักดิบเลยก็ได้นะคะอันนี้แล้วแต่จิตใจของแต่ละคนคะ

2.พักผิวหน้า งดการใช้ครีมทุกชนิดนะคะ สำหรับผู้ที่แพ้หนักๆเลย งดทุกอย่างนะคะ ครีมกันแดดก็งดคะ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก่อนนะคะ (สำหรับผู้ที่สิวเห่อหนัก)
*ความเชื่อที่ว่าผิวต้องทาครีมบำรุง อันนี้ไม่จริงนะคะผิวเรามีการสร้างความชุ่มชื้นได้เองคะ ไม่ต้องใช้ครีมใดๆไปเติม ครีมยิ่งทาหน้ายิ่งไปกันใหญ่นะคะ

*** สิ่งที่ทำเพื่อป้องกันการเผาไหม้ได้ดีสุดคือ ว่านหางจระเข้
อโรเวร่าเจล สกัดเย็น BY Vanila Skin  ขนาด 30กรัม 250บาท
LAB Grade
Non PARABEN
Good Cosmesutical




3.ทานน้ำเปล่าเยอะๆ เพื่อล้างสารเคมีที่ตกค้างในกระแสเลือด และในผิวออกให้มากที่สุดคะ


4.ทานรางจืด หลายคนยังไม่รู้จักรางจืดนะคะ รางจืดเป็นสมุนไพรที่ใช้ในการล้างพิษ สารเคมีที่ตกค้างในกระแสเลือดเราที่ทำให้เลือดเราเป็นกรด เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ผิวหมอง รางจืดจะเป็นตัวช่วยในการปรับสมดุลในเลือดให้กลับมาเป็นกลาง ลดการอักเสบของผิว ลดอาการแพ้ อาการแดง คะ


5.นอนให้เพียงพอ วันละ 6-8 ชั่งโมงเรื่องนี้สำคัญมากสำหรับคนที่เป็นสิวนะคะ


6.งดอาหาร รสจัดทุกชนิด เค็ม เปรี้ยว หวาน เผ็ด มัน งดนะคะ เมื่อผิวที่สวย บางครั้งกินจืดๆก็อร่อยไปอีกแบบนะคะลองดู ^^


7.ยิ้มคะ เรารู้ว่าคุณเครียด แต่สิ่งหนึ่งเลยที่คุณต้องทิ้งคือ " คำพูด" ที่จะมาบันทอนจิตใจคุณ คำถามที่ชอบถามว่า ไปทำไรมา? หน้าเป็นอะไร? ทำไมสิวเห่อ? ไม่ไปหาหมอหละ? ให้คุณฟังแบบหูทวนลมนะคะเพราะคำถามเหล่านี้จะทำให้จิตใจคุณห่อเหี่ยวมาก ยิ้มสู้คะ และเชื่อว่าคุณต้องหาย 
ทีมา >> http://goo.gl/yPgqG8 <<




วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ยาที่ลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด






ตอนแรกเกิร์ลจะเขียนชื่อยาตามกลุ่มยา
แต่มานึกๆดูแล้ว ขอเขียนตามลำดับตัวอักษรแทนนะคะ

ยาอะไรลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด


AmoxyCillin  
อะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin) เป็นยา ใช้สำหรับโรคติดเชื้อที่ไวต่อยานี้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยา ปฏิชีวนะ ดังต่อไปนี้ โรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น โพรงจมูกอักเสบ ...

Ampicillin
แอมพิซิลลิน (Ampicillin) เป็นยาปฏิชีวนะที่มีชื่อทางการค้าหลายชื่อ เช่น Amilin, Ampat, Ampexin, Ampicillin Pharmacia, Ampicyn ออกฤทธิ์คล้ายกับ Benzypeni-Benzypenicillin ยานี้สามารถทำลายแบคทีเรียได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะแบคทีเรียแกรมบวก แกรมลบ เช่นเชื้อทำให้เกิดโรคท้องเสีย หลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ ปอดบวม ทางเดินปัสสาวะอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ถุงและท่อน้ำดีอักเสบ แผลมีหนอง ฝี


CarbamaZepine
ชื่อสามัญ Carbamazepine ชื่อการค้า Carbamazepine tablets, usp 200 mg รูปแบบยา ยาเม็ด ยานี้ใช้สำหรับ;ยานี้ใช้เพื่อควบคุมหรือรักษาการชักในผู้ป่วยโรคลมชัก (epilepsy) ...

Clofibrate
Ethosuximide
Lora/Oxa/TermaZepam
MetroniDazole
PhenoBarbital
Phenytoin
Primidone
Rifampin
Salicylate
TetraCycline
Traglitazone



อ๋าว..ละลานตาเชียว อะไรยังไงกันเนี่ย
ไม่ต้องต๊กกะใจไปค่ะ เกิร์ลจะสรุปง่ายๆให้ว่า



ยาส่วนใหญ่เป็นยาที่"มัก"ได้รับผ่านโรงพยาบาล เกิร์ลขอข้ามไปก่อนนะคะ

(ถ้าคุณผู้ชมไปร้านยาร้านไหนแล้วได้ยาอย่าง Clofibrate เอย, สารพัด ...Zepam เอย, PhenoBarbital เอย เป็นต้น
กระซิบเกิร์ลหน่อยนะคะ )



ถ้าคุณผู้ชมต้องใช้ยาฆ่าเชื้อ(หรือที่คุณผู้ชมบางคนเรียก"ผิด"ว่ายาแก้อักเสบ)ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นมาก
คุณผู้ชมจะต้องบอกเภสัชกรว่า กำลังใช้ยาคุมกำเนิดอยู่ เภสัชกรจะแนะนำให้ได้ค่ะว่าควรทำอย่างไร
ทำไมเกิร์ลไม่บอกมาเลยล่ะ..?
การรักษาเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ค่ะ ไม่มีเส้นทางเส้นทางเดียว มันต้องปรับไปตามผู้ใช้ยาแต่ละคนแต่ละครั้งไป



แล้วเกิร์ลนำมาบอกทำไม..?
คุณผู้ชมคงทราบอยู่แล้วนะคะว่าไม่มีวิธีไหนคุมกำเนิดได้ 100%
หลายเปอร์เซ็นต์มาจากวิธีคุมกำเนิดเองที่ไม่ได้ป้องกันได้ชัวร์ๆไม่ท้องแน่ๆ
หลายเปอร์เซ็นต์ก็มาจากการใช้ชีวิตของผู้คุมกำเนิดร่วมด้วย
เกิร์ลจึงนำข้อมูลมาบอกกล่าวกันว่า ถ้าคุณผู้ชมกังวลเรื่องตั้งครรภ์ม๊ากกก..มีิวิธีไหนบ้างที่ช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์ไม่ท้องได้บ้าง




แล้วมียาอะไรบ้างไหม ที่ใช้ร่วมกับยาคุมกำเนิดแล้วยานั้นได้รับผลกระทบ..
มีเหมือนกันค่ะ กรณีนี้ยาคุมกำเนิดจะไปมีอันตรกิริยาทำให้ยานั้นมีระดับยาในเลือดสูงขึ้น
ยาเหล่านั้นที่เป็นกลุ่มที่คุณผู้ชมอาจเจอได้บ่อยเช่น
Caffeine(กินร่วมกับยาคุมกำเนิดแล้ว Caffeineในเลือดสูงกว่าไม่กินยาคุมกำเนิด)
สเตียรอยด์(ยากลุ่มนี้หวังว่าคงไม่มีใครจ่ายให้กินเล่นๆกันนะคะ)
ยาคลายเครียด Amitriptylene, Nortriptylene
ยาป้องกันไมเกรน Propanolol

ไม่ต้องลองก็รู้ได้ ยาคุมกำเนิดสูตรไหนเหมาะกับเรา




ตำเตือน

ข้อมูลในบล๊อกนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น


ทุกคนคงทราบอยู่แล้วว่ายาคุมกำเนิดมีหลากหลายยี่ห้อ
บางยี่ห้อเป็นสูตรเดียวกัน บางยี่ห้อต่างกัน แต่นับรวมๆกันแล้วมีหลายสูตร
(ซึ่งในความเป็นจริงมีหลายสูตรมากกว่าที่คุณผู้ชมรู้จักกันเสียอีก)

บล๊อกนี้เกิร์ลจะให้ข้อมูลเบื้องต้นที่เป็นประโยชน์กว่าการขอรีวิวเพื่อนฝูงว่า "เธอใช้สูตรไหนแล้วดีฉันขอใช้ตาม"

ด้วยการแนะนำให้ผู้ที่จะใช้ยาคุมกำเนิดสังเกตตัวเองว่า.. คุณมีความเป็นผู้หญิง(ทางฮอร์โมน)มากแค่ไหน

ถ้า... คุณมีประจำเดือนมาแยอะ, มาก่อนเวลา(น้อยกว่า26วัน), มีขนตามร่างกายแขนขาน้อย, อวบ
......... คุณเป็นผู้หญิงมาก
ถ้า... คุณมีประจำเดือนน้อย, มาเลทไปเรื่อยๆ(รอบเดือนมากกว่า 28วัน), มีขนตามแขนขามาก
....คุณเป็นผู้หญิงน้อย
ถ้า.. คุณมีประจำเดือนพอดี(มีปจด.ประมาณ 3-5วัน ปริมาณปจด.ไม่มากไม่น้อย), รูปร่างพอดี
.... คุณมีความเป็นผู้หญิงปานกลาง

สูตรไหนบ้างที่จัดเป็นประเภท...เอสโตรเจนสูง...สำหรับผู้ทานที่มีความเป็นผู้หญิงน้อยค่อยไปทางผู้ชายมาก(เช่นเกิร์ล)
คำตอบ..คือสูตรที่มี Estrogen 35mcg (ซึ่งเป็นขนาดที่มากที่สุด*ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ

*เกิร์ลขอให้ข้อมูลไว้ว่า ยาคุมกำเนิดที่มีเอสโตรเจนมากกว่าสามสิบห้าไมโครกรัมก็มีเช่น 50, 75, 100mcg
แต่จะใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาทางนรีเวชโดยสูตินารีแพทย์ ไม่นำมาใช้ในจุดประสงค์คุมกำเนิด

*ส่วนยาคุมกำเนิดที่มีเอสเตรเจนไม่เกิน 50mcg แต่สูงกว่า 35mcg และได้ยินชื่อบ่อยๆ
เช่น อนามัย, Oilezz
ส่วนที่ไม่ค่อยคุ้นชื่อแต่มีเอสเตรเจนสูงคือ Tiquilar, Trinordiol
ยี่ห้อ Triquilar และ Trinordiol มี Estrogen 30, 40, 10mcg

ส่วนยี่ห้อ Oilezz มี Estrogen 40mcg ในเม็ดที่ 1-7ของแผง, และ 30mcg ในเม็ดที่ 8-22ของแผง
สูตรที่มีฮอร์โมนไม่เหมือนกันทุกเม็ดนั้น "จำเป็นต้องกินตามลูกศรเท่านั้น" ห้ามกินสลับกันเด็ดขาด)


ย้อนกลับไปว่ายาคุมกำเนิดที่มีเอสโตรเจน จะไม่มีเป็นรูปแบบเอสโตรเจนเดี่ยวๆ
คือในหนึ่งเม็ดจะมีทั้ง Estrogen และ Progestogen** หรือโปรเจสโตเจนเดี่ยวๆ***
ยาคุมกำเนิดที่เราได้ยินชื่อกันบ่อยๆที่มี Estogen 35mcg และ Progestogen เป็น Cyproterone acetate 2000mcg
เช่น ยี่ห้อ.. Diane-35, Preme, Sucee (ในท้องตลาดมีมากกว่า 3 ยี่ห้อ)(เรียงตามตัวอักษร)
บางสูตรที่เป็น Estogen 35mcg ใช้ Progesterone เป็น Norgestimate 250mcg เช่นยี่ห้อ Cilest


ปริมาณ Estrogen รองจาก 35mcg คือ 30mcg
ตัวอย่างเช่น Yasmin (Progestogen ของ Yasmin คือ Drospirenone)
ปริมาณ Estrogen ที่ต่ำ(แทบจะต่ำที่สุดที่คุ้นเคยชื่อกัน) คือ 20mcg
-เนื่องจากปริมาณเอสโตรเจนต่ำมาก ควรเริ่มเม็ดแรกตั้งแต่วันแรกที่มีประจำเดือน-
ตัวอย่างเช่น Meliane, Mercilon (ในตลาดมีมากกว่า 2ยี่ห้อ)(เรียงตามตัวอักษร)
โดยที่สองยี่ห้อที่ยกตัวอย่างที่มี เอสโตรเจนยี่สิบไมโครกรัม ใช้โปรเจนเตอโรนต่างกัน
คือ Meliane ใช้ Gestodene 75mcg ส่วน Mercilone ใช้ Desogestrel 150mcg

ปิดท้ายจริงๆ..
ถ้าพิจารณาธรรมชาติของร่างกายแล้วเลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่งไประยะหนึ่ง
แล้วพบว่าสูตรนั้นยังไม่เหมาะกับร่างกาย ก็ต้องปรับใหม่ตามสูตรยาเป็นหลัก 
ขอให้ปรึกษาเภสัชกร อย่าปรับเองโดยเลือกยี่ห้อ(แต่เป็นสูตรเดียวกัน)เพราะจะเป็นการเปลี่ยนแบบไม่เปลี่ยน
(**Progestogen นะคะ ไม่ใช่ Progesterone สองชื่อนี้ไม่เหมือนกัน)
***โปรเจสโตรเจนเดี่ยวๆ มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดน้อยกว่าสูตรผสม แต่เหมาะกับผู้ที่มีข้อห้ามใช้เอสโตรเจน